ทำความรู้จักกับ Carbon Footprint of Organization (CFO)หรือ “การวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร” ว่าคืออะไร

ความรู้

เมษายน 30, 2025

คุณรู้หรือไม่? ทุกครั้งที่เราเปิดแอร์ขณะประชุม ส่งของผ่านรถขนส่ง หรือแม้แต่เปิดไฟในสำนักงาน ล้วนมีร่องรอยของ “ก๊าซเรือนกระจก” ที่มองไม่เห็นแฝงอยู่ และเมื่อนำกิจกรรมทั้งหมดในองค์กรมารวมกัน จะกลายเป็นตัวเลขสำคัญที่เรียกว่า Carbon Footprint ซึ่งสะท้อนผลกระทบที่องค์กรมีต่อสิ่งแวดล้อมในแต่ละปี

บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Carbon Footprint of Organization (CFO) หรือ “การวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร” ว่าคืออะไร ตรวจสอบอย่างไร แบ่งออกเป็นกี่ประเภท และที่สำคัญมันบอกอะไรกับเราบ้าง ?

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ หรืออยู่ในองค์กรที่ต้องการยืนอยู่ในโลกอย่างยั่งยืน นี่คือข้อมูลที่คุณไม่ควรพลาด

Carbon Footprint คืออะไร ?


คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) คือ ปริมาณรวมของก๊าซเรือนกระจก (GHG) ที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์หรือบริการหนึ่งๆ ตลอดวัฏจักรชีวิตของมัน ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การขนส่ง การใช้งาน จนถึงการกำจัดทิ้ง ไม่ใช่แค่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงก๊าซอื่นๆ อย่าง ก๊าซมีเทน หรือแม้แต่ ก๊าซหัวเราะ (ไนตรัสออกไซด์) ที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนไม่แพ้กัน กิจกรรมที่เราทำกันเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ไฟฟ้า ขับรถ เปิดแอร์ หรือกระบวนการผลิตในโรงงาน ต่างก็เป็นแหล่งกำเนิดก๊าซเหล่านี้ทั้งสิ้น

การหาค่า Carbon Footprint ขององค์กร หรือที่เรียกว่า Carbon Footprint of Organization (CFO) คือการวัดค่าการปล่อย GHG ที่เกิดขึ้นในองค์กรในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้องค์กรเข้าใจผลกระทบที่เกิดจากกิจกรรมขององค์กรต่อสิ่งแวดล้อม

CFO คืออะไร ?

CFO (Carbon Footprint for Organization) หรือที่เรียกว่า คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร คือ การวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่องค์กรปล่อยออกมา จากการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปี โดยแสดงผลในรูปของ ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO₂e) ตัวอย่างกิจกรรมที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การใช้ไฟฟ้าและเชื้อเพลิง การขนส่งและการเดินทาง การจัดการของเสีย กระบวนการผลิตในโรงงาน เป็นต้น

การประเมิน CFO แบ่งออกเป็น 3 ประเภท (Scopes)

การทำ CFO เป็นการตรวจสอบการปล่อย GHG (greenhouse gas emission) ทั้ง 7 ชนิด โดยเปรียบเทียบกับ CO2 ซึ่งใช้เป็นค่าอ้างอิง และแบ่งการตรวจสอบกิจกรรมที่เกิดขึ้นออกเป็น 3 Scope ดังนี้

Scope 1 : Direct Emission

การปล่อย GHG ทางตรงที่องค์กรควบคุมได้ เช่น

  • การเผาไหม้ของน้ำมันในรถขนส่งของโรงงาน
  • การรั่วไหลของสารทำความเย็นในเครื่องปรับอากาศ
  • การเกิด CH4 ในบ่อน้ำเสีย
  • การเกิด CH4 ของระบบ septic tank

Scope 2 : Indirect Emission

การปล่อย GHG ทางอ้อม ที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงาน ที่องค์กรต้องซื้อจากภายนอก เช่น การซื้อพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากฟอสซิล พลังงานไอน้ำ พลังงานความร้อน

Scope 3 : Other Indirect Emissions

การปล่อย GHG ทางอ้อม ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในองค์กร โดยแหล่งที่มาอยู่นอกเหนือการควบคุมขององค์กร เช่น

  • การใช่้นำประปา
  • การได้มาของวัตถุดิบในการผลิต
  • การใช้บริการขนส่งของบุคคลที่สาม เป็นต้น
  • การเกิด CH4 ของระบบ septic tank

ในการเลือกหัวข้อของ scope 3 จะเลือกกิจกรรมที่ส่งผลต่อการปล่อย GHG ขององค์กรในปริมาณที่มีนัยสำคัญ

ทำไม CFO จึงสำคัญ

การวัดค่า CFO ไม่เพียงช่วยให้องค์กร เข้าใจผลกระทบของกิจกรรมต่างๆ ต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการ

  • ช่วยวางแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน
  • ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือในด้านความยั่งยืนให้กับลูกค้า คู่ค้า และนักลงทุน
  • สอดคล้องกับมาตรฐาน ESG และแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

CFO บอกอะไรบ้าง

  • วางแผนการลดการปล่อย GHG ในปีถัดไป
  • วิเคราะห์ ส่วนที่สามารถพัฒนาเพื่อลดการปล่อย GHG ได้ โดยยังคงผลิตสินค้าได้เท่าเดิมหรือมากขึ้น พร้อมกับช่วยลดค่าใช้จ่ายในองค์กร เช่น การปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพ
  • เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้ก้บคู่ค้า และลูกค้าที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตามไม่ว่าองค์กรใด หากสามารถลดการปล่อย GHG ลงได้ในทุกปี จะได้ประโยชน์ทั้งในเรื่องการปรับปรุงการดำเนินงานและต้นทุน นอกจากนี้ ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม

และนอน บริษัท แบ็กส์แอนด์โกล์ฟ จำกัด ของเรา ให้ความสำคัญกับการทำ CFO เป็นอย่างมาก และตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องของการลดการปล่อยก๊าสเรือนกระจกในภาคการผลิต จึงได้มีนโยบายเรื่องการทำ  CFO ในปีแรกคือ 2565 และมีนโยบายในการจัดทำต่อเนื่องทุกปี เพื่อวัดความสำเร็จในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคการผลิตของบริษัท โดยขอการรับรองจาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวเลขที่ทางบริษัทได้คำนวณว่า มีความถูกต้อง โปร่งใส สามารถนำไปใช้ได้จริง และบริษัทฯ สามารถนำข้อมูลที่ได้นี้ไปจัดทำนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นไปได้จริงของบริษัท

บทความที่เกี่ยวข้อง

Uncategorized, ความรู้

PFAS คืออะไร? ทำไมจึงต้องมีการตรวจสอบและควบคุม

PFAS หรือ Per- and Polyfluoroalkyl Substances เป็นกลุ่ม…

ความรู้

ถุงพลาสติก ย่อยสลายได้ นวัตกรรมรักษ์โลกที่ตอบโจทย์คนใช้งาน

ถุงพลาสติกย่อยสลายได้ คือถุงที่ผลิตจากวัสดุพิเศษที่สามา…

ความรู้

PLA คืออะไร? รู้จักกับพลาสติกชีวภาพ ตัวเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

PLA (Polylactic Acid)  เป็นพลาสติกชีวภาพชนิดหนึ่ง ที่จั…

ความรู้

Greenhouse Gas (GHG) คืออะไร ?

Greenhouse Gas (GHG) หรือที่เรียกกันว่า ก๊าซเรือนกระจก …