เข้าใจ CFP แบบลึกแต่ไม่ยาก ก้าวแรกของธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ความรู้

สิงหาคม 8, 2025

Carbon Footprint of Product (CFP) คาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์คืออะไร

Carbon Footprint of Product (CFP) หมายถึง การประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ที่เกิดขึ้นตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment) ตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การขนส่ง การใช้งาน ไปจนถึงการจัดการหลังหมดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ โดยแสดงผลลัพธ์ในหน่วย  “กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า” หรือ kgCO₂e

ในการคำนวณ CFP จะครอบคลุมก๊าซเรือนกระจกหลัก ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) , มีเทน (CH₄) , ไนตรัสออกไซด์ (N₂O) และอาจรวมถึงก๊าซชนิดอื่นตามที่ระบุในมาตรฐาน เช่น HFCs, PFCs, SF₆ และ NF₃ โดยยึดตามมาตรฐาน ISO 14067 ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

คุณลักษณะสำคัญของการประเมิน CFP

  • ประเมินตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
  • ใช้หน่วยวัดเป็นกิโลกรัม CO₂e ต่อหน่วยผลิตภัณฑ์ เช่น ต่อ 1 กิโลกรัม หรือ 1 ลิตร
  • ช่วยให้องค์กรสามารถวางแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนและการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

ประเภทของ CFP การเปรียบเทียบระหว่าง B2B และ B2C

ประเภทCFP: B2B
(Business to Business)
CFP: B2C
(Business to Consumer)
ขอบเขตการประเมินประเมินการปล่อย CO₂ ในช่วงการได้มาของวัตถุดิบ และ
การผลิต (Cradle-to-Gate)
ซึ่งไม่รวมขั้นตอนการใช้งานและการจัดการของเสียที่เกิดจากผลิตภัณฑ์
ประเมินการปล่อย CO₂ ครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การ
จัดหาวัตถุดิบ, การผลิต, การ
กระจายสินค้า, การใช้งานและการจัดการผลิตภัณฑ์หลังใช้งาน (Cradle-to-Grave)
ลักษณะผลิตภัณฑ์สินค้าส่วนใหญ่ที่ทำ CFP แบบB2B เป็นสินค้าที่เป็นวัตถุดิบ หรือ สินค้าที่เป็นส่วนประกอบ
ในการผลิตสินค้าชนิดอื่น
สินค้าที่ทำ CFP แบบ B2C เป็นสินค้าสำเร็จรูป ส่งถึงผู้บริโภคปลายทางโดยตรง (end users)
การใช้ข้อมูล CFPไม่มีการแสดงฉลาก CFP
บนบรรจุภัณฑ์ แต่ช่วยให้ลูกค้าองค์กรทราบค่าการปล่อย CO₂ ของส่วนประกอบสำหรับ
การผลิตสินค้าปลายทาง
สามารถแสดงฉลาก CFP
บนผลิตภัณฑ์ได้ (ขึ้นกับบริษัท
ผู้ผลิตสินค้าว่า ต้องการติดฉลาก CFP บนผลิตภัณฑ์หรือไม่)
ตัวอย่างตัวอย่างสินค้า เช่น เม็ดพลาสติก, ขวดสำหรับบรรจุน้ำดื่ม, กระดาษลูกฟูกตัวอย่างสินค้า เช่น ถุงมือพลาสติกในซอง, น้ำดื่่มบรรจุขวด, เครื่องใช้ไฟฟ้า

การจัดทำ CFP เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบต่อโลก และตอบโจทย์การบริโภคที่ยั่งยืนในอนาคต

การคำนวณคาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint) ทั้งในระดับองค์กร (CFO) และผลิตภัณฑ์ (CFP) จะใช้หน่วยวัดเป็นคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO₂e) ซึ่งเป็นการแปลงค่าการปล่อย GHG ชนิดต่างๆ ให้เทียบเท่ากับปริมาณ CO2 เพื่อให้การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นมาตรฐานเดียวกัน

ความเชื่อมโยงระหว่าง CFP และ CFO

CFO (Carbon Footprint for Organization) คือการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับองค์กร ซึ่งสามารถเชื่อมโยงข้อมูลมายังระดับผลิตภัณฑ์ (CFP) ได้ เพื่อให้เห็นภาพรวมของผลกระทบที่องค์กรมีต่อสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน

เมื่อองค์กรมีการประเมินทั้ง CFP และ CFO อย่างต่อเนื่อง จะสามารถกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

บทสรุป

การประเมิน Carbon Footprint of Product (CFP) เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเข้าใจผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทอย่างเป็นระบบ นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ยังเป็นการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและยกระดับภาพลักษณ์องค์กรในสายตาของผู้บริโภคและพันธมิตรทางธุรกิจ

องค์กรที่เริ่มต้นจากการประเมิน CFP ย่อมมีความได้เปรียบในด้านการแข่งขัน พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคตอย่างมั่นคง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความรู้

การทดสอบความปลอดภัยของถุงมือสัมผัสอาหาร: มาตรฐานและการรับรอง

ถุงมือที่ใช้สัมผัสอาหารเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาความสะอ…

ความรู้

ทำความรู้จักกับ Carbon Footprint of Organization (CFO)หรือ “การวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร” ว่าคืออะไร

คุณรู้หรือไม่? ทุกครั้งที่เราเปิดแอร์ขณะประชุม ส่งของผ่…

LDPE คือ

ความรู้

LDPE คืออะไร? รู้จักกับคุณสมบัติและการใช้งานของพลาสติก LDPE

เมื่อต้องพูดถึงวัสดุพลาสติกที่มีความยืดหยุ่น และสามารถน…

ความรู้

ก๊าซเรือนกระจก กับ คาร์บอนฟุตพริ้นท์และการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เกี่ยวข้องกันอย่างไร

เคยสงสัยไหมว่า กิจกรรมในชีวิตประจำวันของเรามีส่วนทำให้เ…