ภารกิจที่เราจริงจังและมุ่งมั่นทำให้สำเร็จ
ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นภารกิจเร่งด่วนที่ทุกองค์กรต้องร่วมรับผิดชอบ บริษัท แบ็กส์ แอนด์ โกล์ฟ จำกัด ในฐานะผู้ผลิตถุงมือพลาสติก ถุงพลาสติก และผลิตภัณฑ์จากแผ่นฟิล์มพลาสติกของไทย เราตระหนักดีว่าอุตสาหกรรมของเรามีบทบาทสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลง
เราจึงประกาศพันธกิจสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมาย “Net Zero” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
เป้าหมาย Net Zero ที่ชัดเจนและวัดผลได้
เราไม่ได้แค่วางแผน แต่เราตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 50% ภายในปี 2030
- บรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050
เป้าหมายนี้สอดคล้องกับนโยบายของประเทศไทยภายใต้กรอบข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) โดยเรามุ่งเน้นการลด Carbon Footprint จากทุกกระบวนการ
- การคัดเลือกวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- การบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- การปรับปรุงกระบวนการผลิต
- การจัดส่งสินค้าที่ลดคาร์บอน
วัดผลจริง ติดตามจริง ด้วย CFO
เราไม่ได้แค่พูด แต่เรามีระบบวัดผลที่เป็นรูปธรรม ด้วยการจัดทำ CFO (Carbon Footprint of Organization) ตั้งแต่ปี 2565 เพื่อวัดและติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในโรงงาน เราจัดทำรายงาน CFO ทุกปี เพื่อ
- ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการประเมินผลลัพธ์
- วางแนวทางลดการปล่อยคาร์บอนในอนาคต
- ทราบว่ากิจกรรมแต่ละอย่างสามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้มากน้อยเพียงใด
การวัดผลอย่างเป็นระบบนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมาย Net Zero เพราะเราเชื่อว่า “สิ่งที่วัดได้ ปรับปรุงได้”
การลงทุนที่เห็นผลจริง
พลังงานสะอาดที่เราลงมือทำ – หนึ่งในโครงการที่เราภาคภูมิใจและดำเนินการอย่างต่อเนื่องคือการลดการปล่อยคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรมในทุกๆ ปี
ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) – เริ่มติดตั้งบนหลังคาโรงงานตั้งแต่ปี 2565 ขยายการติดตั้งเพิ่มเติมในปี 2566 วางแผนขยายโครงการต่อเนื่องในปี 2567-2568 เป้าหมายคือให้โรงงานสามารถใช้พลังงานสะอาดได้มากที่สุด โดยเราได้
- ลงทุนไปแล้วกว่า 25 ล้านบาท ในระบบพลังงานทางเลือก
- วางแผนลงทุนเพิ่มอีกกว่า 10 ล้านบาทในปี 2025 เพื่อติดตั้งระบบพลังงานทางเลือกให้ครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่พื้นที่โรงงานจะรองรับได้
โรงงานอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยี IoT – นอกจากพลังงานสะอาดแล้ว เราได้ติดตั้ง ระบบ IoT (Internet of Things) เพื่อเก็บข้อมูลการใช้พลังงานไฟฟ้าในทุกจุดของโรงงานอย่างละเอียด ระบบนี้ช่วยให้เรา
- วิเคราะห์รูปแบบการใช้พลังงานได้อย่างแม่นยำ
- หาจุดที่สามารถประหยัดพลังงานได้
- เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้าสูงสุด
นี่คือก้าวสำคัญในการยกระดับสู่ “โรงงานอัจฉริยะที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” อย่างแท้จริง
การจัดการของเสียอย่างจริงจัง
เริ่มต้นที่ความรู้และความเข้าใจ เราให้ความสำคัญกับการจัดการของเสียที่เกิดขึ้นภายในองค์กรอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการให้ความรู้แก่พนักงานเรื่อง
- การแยกขยะอย่างถูกวิธี
- การนำวัสดุที่สามารถใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลได้กลับมาใช้ประโยชน์
พร้อมจัดพื้นที่เฉพาะสำหรับการแยกและรวบรวมขยะรีไซเคิล เพื่อให้ง่ายต่อการปฏิบัติและเป็นระบบ
ลดของเสียตั้งแต่ต้นทาง นอกจากจัดการขยะแล้ว เรายังมุ่งเน้นการลดของเสียในการผลิต (Production Waste Reduction) ผ่านมาตรการต่างๆ
- ตรวจสอบคุณภาพเครื่องจักรอย่างสม่ำเสมอ – ป้องกันของเสียจากเครื่องจักรที่ทำงานผิดปกติ
- เลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง – ลดของเสียจากวัตถุดิบที่ไม่ได้มาตรฐาน
- ปรับปรุงกระบวนการผลิต – เพิ่มผลผลิตให้สูงสุดในเวลาที่กำหนด
- นำเข้าเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพสูง – ใช้พลังงานน้อยลง ผลิตได้มากขึ้น
มาตรการเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดการสูญเสียพลังงาน แต่ยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตโดยตรงอีกด้วย
นวัตกรรมวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เราให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ
- วัสดุ Low Carbon – วัตถุดิบที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำระหว่างการผลิต
- ทรัพยากรหมุนเวียน (Renewable Resources) – เช่น เม็ดพลาสติกจากพืช ที่สามารถปลูกทดแทนได้
- วัสดุรีไซเคิล (PCR, PIR) – พลาสติกที่นำกลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดขยะและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ
- วัสดุย่อยสลายได้ (Compostable) – สามารถสลายตัวกลับสู่ธรรมชาติได้โดยไม่ทิ้งสารพิษ
นโยบายนี้ไม่เพียงตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการสินค้ารักษ์โลก แต่ยังช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ทั้งระบบ
ความมุ่งมั่นของเราต่อโลกใบนี้
ด้วยแนวทางที่ครอบคลุมทั้งด้านพลังงาน การจัดการทรัพยากร การคัดเลือกวัตถุดิบ และการปรับปรุงกระบวนการผลิต เรามุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในโรงงานอุตสาหกรรมของไทยที่ก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม
เราจะยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสมดุลระหว่าง “คุณภาพของสินค้า” และ “ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม” เพราะเราเชื่อว่า การเติบโตที่แท้จริงของธุรกิจ ต้องเป็นการเติบโตที่ยั่งยืนไปพร้อมกับโลกใบนี้
นี่ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นภารกิจที่เราทุ่มเทให้ทุกวัน มีระบบวัดผลที่ชัดเจน และลงทุนอย่างจริงจัง เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะบรรลุเป้าหมาย Net Zero ที่ตั้งไว้
