เคยสงสัยไหมว่า อาหารแต่ละจานที่เรากินในชีวิตประจำวัน มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) มากน้อยแค่ไหน? เบื้องหลังการผลิตอาหารตั้งแต่ ผัก ผลไม้ ไปจนถึงเนื้อสัตว์ มีการใช้ทรัพยากรและพลังงานที่แตกต่างกัน ทำให้แต่ละประเภทอาหารมี “คาร์บอนฟุตพริ้นท์” ไม่เท่ากัน บทความนี้จะพาคุณมาดูตัวเลขจริงจากงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้เข้าใจว่าแอปเปิ้ลที่ดูสดชื่น ปล่อย CO₂ น้อยกว่าหรือมากกว่าสเต๊กจานโปรดของคุณกี่เท่า และข้อมูลนี้จะช่วยให้เราเลือกกินอย่างรับผิดชอบต่อโลกได้อย่างไร
ตัวอย่าง ปริมาณ CO2 ที่ปล่อยสู่บรรยากาศต่อการผลิต 1 กก.
ชนิดสินค้า | ปริมาณการปล่อย carbon dioxide ต่อการผลิต 1 กก. |
แอปเปิ้ล | 0.51 kgCO2e |
นมอัลมอนด์ | 0.66 kgCO2e |
สัปปะรด | 0.93 kgCO2e |
น้ำตาลทราย | 1.85 kgCO2e |
มะเขือเทศ | 2.27 kgCO2e |
โยเกิร์ต | 3.11 kgCO2e |
เนื้อไก่ (จากฟาร์ม) | 9.87 kgCO2e |
นื้อหมู (จากฟาร์ม) | 12.31 kgCO2e |

Source : Our World in Data
(https://ourworldindata.org/environmental-impacts-of-food)


จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า อาหารแต่ละชนิดมีปริมาณการปล่อย CO₂ แตกต่างกันอย่างชัดเจน เนื้อสัตว์อย่างเนื้อวัวและเนื้อหมูมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูงกว่าผักและผลไม้อย่างมาก การตระหนักถึงข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถปรับพฤติกรรมการบริโภค เช่น ลดการกินเนื้อสัตว์บางประเภท หรือเลือกอาหารที่มีการปล่อย CO₂ ต่ำ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยจากทุกคน จะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ต่อโลกของเราได้ในระยะยาว