พลาสติก PE คือ วัสดุที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยและพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติกที่ใช้ใส่ของจากตลาด ขวดน้ำดื่ม หรือของใช้พลาสติกในบ้าน แต่รู้หรือไม่ว่าพลาสติกชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม วันนี้เราจึงขอพามาทำความรู้จักกับพลาสติก PE ให้มากขึ้น เพื่อให้เข้าใจว่าทำไมมันถึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
PE คืออะไร?
PE หรือ พอลิเอทิลีน (Polyethylene) เป็นพลาสติกประเภทเทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic) หรือพลาสติกทั่วไปที่เราพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน แต่ก็มีประเภทย่อยที่แตกต่างกันออกไปตามโครงสร้าง เช่น HDPE, LDPE, LLDPE แต่หลักๆ แล้ว พลาสติก PE มีคุณสมบัติเฉพาะตัว เช่น ความยืดหยุ่น ทนทานต่อสารเคมี กันน้ำได้ดี เหมาะสมกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ และการผลิตและใช้งานอย่างแพร่หลาย
คุณสมบัติเด่นของพลาสติก PE
- ทนทานต่อสารเคมี : พลาสติก PE มีความทนทานต่อสารเคมีสูง สามารถต้านทานกรด ด่าง สารละลาย และสารเคมีหลายชนิดได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมี หรือใช้เป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี
- ยืดหยุ่นและแข็งแรง : พลาสติก PE มีคุณสมบัติยืดหยุ่นและมีความแข็งแรงสูง สามารถทนต่อแรงดึง แรงกระแทก และการฉีกขาดได้ดี ทำให้เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความทนทานหรือการใช้งานที่ต้องมีการเคลื่อนไหวบ่อยๆ
- ปลอดภัยสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม : PE เป็นพลาสติกที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยสำหรับการสัมผัสอาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายละลายออกมาปนเปื้อนกับอาหาร ทำให้ PE เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม
- ทนต่อแรงกระแทกและการเสียดสี : พลาสติก PE มีความทนทานต่อแรงกระแทกและการเสียดสีสูง ไม่แตกหักง่าย ทำให้เหมาะกับการใช้งานที่ต้องเผชิญกับแรงกระแทกหรือการเสียดสีเป็นประจำ เช่น ถังขยะ ของเล่นเด็ก หรืออุปกรณ์ก่อสร้าง
- ทนความร้อนและความเย็น : PE สามารถทนต่ออุณหภูมิได้ในช่วงตั้งแต่ -60°C ถึงประมาณ 80-120°C (ขึ้นอยู่กับประเภทของ PE) ทำให้เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิหลากหลาย
พลาสติก PE มีกี่ประเภท?
พลาสติก PE แบ่งเป็นประเภทย่อยได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งานหรือการเติมสารเคมีอื่นๆ เสริมเข้าไปเพื่อสร้างคุณสมบัติอื่นๆ เพิ่มเติม แต่โดยหลักแล้ว พลาสติก PE ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม จะมีด้วยกัน 2 ประเภท
1. LDPE (Low-Density Polyethylene)
LDPE เป็นพลาสติก PE ที่มีความหนาแน่นต่ำ มีโครงสร้างโมเลกุลที่มีกิ่งก้านสาขาจำนวนมาก ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง นิ่ม และมีความโปร่งใส มีจุดหลอมเหลวอยู่ที่ประมาณ 105-115°C ทนอุณหภูมิได้ไม่สูงมากนัก แต่มีความยืดหยุ่นและความทนทานต่อการฉีกขาดที่ดี
การใช้งานของ LDPE
- ถุงพลาสติกใส่ของทั่วไป
- ฟิล์มห่ออาหาร
- ถุงซิปล็อก
- ฉนวนหุ้มสายไฟ
- ขวดบีบน้ำ
- ฟิล์มเกษตร
2. : LLDPE (Linear Low Density Polyethylene)
LLDPE เป็นพลาสติก PE ที่มีโครงสร้างเป็นเส้นตรงเหมือน HDPE แต่ก็มีลักษณะคล้ายคลึงกับ LDPE คือมีความหนาแน่นต่ำ และมีกิ่งก้านแตกออกเช่นเดียวกัน จึงทำให้ได้คุณสมบัติที่อยู่กึ่งกลางระหว่างพลาสติกทั้ง 2 ประเภทที่ว่ามา คือเหนียวและทนทานกว่า LDPE แต่ไม่เท่ากับ HDPE และยังมีลักษณะเนื้อวัสดุที่มีความมันวาว
การใช้งานของ LLDPE
- บรรจุภัณฑ์อาหาร เช่น ถุงผัก ถุงผลไม้ ถุงขนมปัง ถุงใส่อาหารต่างๆ
- ใช้เป็นชั้นหรือตัวกลางปิดผนึกร่วมกับ Aseptic carton หรือ larminate ลามิเนต สำหรับระบบการบรรจุแบบปลอดเชื้อ
3. HDPE (High-Density Polyethylene)
HDPE เป็นพลาสติก PE ที่มีความหนาแน่นสูง มีโครงสร้างโมเลกุลแบบเส้นตรงไม่มีกิ่งก้านสาขา ทำให้มีความแข็งแรงสูง ทนทาน ทนความร้อนได้ดีกว่า LDPE (จุดหลอมเหลวประมาณ 120-140°C) ทนต่อแรงดึงและแรงกระแทกได้ดี และมีความทึบแสงมากกว่า LDPE
การใช้งานของ HDPE
- ขวดน้ำดื่ม ขวดนม
- ถังน้ำ ถังขยะ
- ท่อน้ำประปา ท่อระบายน้ำ
- บรรจุภัณฑ์สารเคมี
- ของเล่นเด็ก
- แผ่นฉนวนกันความร้อน
พลาสติก PE ข้อดี-ข้อเสีย มีอะไรบ้าง?
ข้อดีของพลาสติก PE
- น้ำหนักเบาและทนทาน : พลาสติก PE มีน้ำหนักเบาแต่มีความทนทานสูง ทำให้สะดวกในการใช้งาน การขนส่ง และมีอายุการใช้งานยาวนาน
- ไม่ดูดซับน้ำ กันชื้นได้ : PE ไม่ดูดซับน้ำและความชื้น ทำให้ไม่เกิดการบวมน้ำหรือเปลี่ยนรูปร่างเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
- สามารถรีไซเคิลได้ : พลาสติก PE สามารถนำไปรีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ช่วยลดปริมาณขยะและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้เป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหากมีการจัดการที่ถูกต้อง
- ต้นทุนการผลิตต่ำ : PE เป็นพลาสติกที่มีต้นทุนการผลิตต่ำเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์จาก PE มีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และเหมาะสำหรับการผลิตในปริมาณมาก
ข้อเสียของพลาสติก PE
- ไม่ทนต่ออุณหภูมิสูงมาก : PE มีข้อจำกัดในการทนความร้อน โดยเฉพาะ LDPE ที่จะอ่อนตัวเมื่อถูกความร้อนสูง ทำให้ไม่เหมาะกับการใช้งานที่ต้องสัมผัสกับอุณหภูมิสูงมาก เช่น การอบในเตาอบที่อุณหภูมิสูง
- ไม่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ : PE เป็นพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ หากทิ้งในธรรมชาติจะใช้เวลาในการย่อยสลายนานหลายร้อยปี ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องมีการจัดการขยะพลาสติก PE อย่างถูกวิธี
- อาจเกิดไฟฟ้าสถิตได้ง่าย : PE มีแนวโน้มที่จะสะสมไฟฟ้าสถิตได้ง่าย ซึ่งอาจดึงดูดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกให้เกาะติดกับผลิตภัณฑ์ และไม่เหมาะต่อผลิตภัณฑ์ที่อ่อนไหวต่อไฟฟ้าสถิต เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แผงวงจร เป็นต้น
พลาสติก PE ใช้ทำอะไร?
- บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม PE : เป็นวัสดุยอดนิยมสำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม เช่น ถุงพลาสติก ขวดนม ขวดน้ำดื่ม ถุงซิปล็อก และฟิล์มห่ออาหาร เนื่องจากปลอดภัยต่อการสัมผัสอาหาร ไม่ทำปฏิกิริยากับอาหาร และช่วยรักษาความสดของอาหารได้ดี
- อุตสาหกรรมการเกษตร : โดยใช้ทำฟิล์มคลุมดินเพื่อรักษาความชื้นและป้องกันวัชพืช ท่อน้ำเกษตรสำหรับระบบชลประทาน ถุงปลูกต้นไม้ และถังใส่ปุ๋ยหรือสารเคมีการเกษตร
- อุตสาหกรรมก่อสร้าง : PE ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น ท่อ PE สำหรับระบบน้ำประปาและระบบระบายน้ำ แผ่นรองพื้นเพื่อป้องกันความชื้น แผ่นฉนวนกันความร้อน และวัสดุกันซึมในงานก่อสร้าง
- อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า : PE ถูกใช้เป็นฉนวนหุ้มสายไฟและสายเคเบิลต่างๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้าที่ดี ทนต่อความชื้น และมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยป้องกันการลัดวงจรและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า
- ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน : ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันหลายอย่างผลิตจาก PE เช่น ถังขยะ ของเล่นเด็ก ถุงซิปล็อก กล่องเก็บของ เฟอร์นิเจอร์พลาสติก เครื่องใช้ในครัว และอุปกรณ์กีฬา เนื่องจาก PE มีน้ำหนักเบา ทนทาน และราคาไม่แพง
- การแพทย์ : PE ถูกนำมาใช้ในอุปกรณ์การแพทย์หลายประเภท เช่น ถุงบรรจุสารละลาย IV ท่อสำหรับให้อาหารทางสายยาง อุปกรณ์ฝังในร่างกาย และบรรจุภัณฑ์ยา เนื่องจาก PE มีความปลอดภัยสูง ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี และสามารถฆ่าเชื้อได้
พลาสติก PE กับการรีไซเคิลและสิ่งแวดล้อม
PE เป็นพลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ ซึ่งเป็นข้อดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็มีข้อเสียคือไม่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ หากไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสม PE อาจกลายเป็นขยะที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมเป็นเวลานาน ดังนั้น การใช้ PE อย่างมีความรับผิดชอบและการจัดการขยะอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
สรุป PE คืออะไรและเหมาะกับการใช้งานแบบไหน?
พลาสติก PE คือวัสดุที่มีบทบาทสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม ด้วยคุณสมบัติที่ทนทาน ยืดหยุ่น และสามารถรีไซเคิลได้ แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ควรพิจารณาตามความเหมาะสมของประเภท PE และความต้องการใช้งานของคุณเองไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการอุปโภคบริโภค หรือในภาคธุรกิจก็ตาม

Bag and Gloves พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์พลาสติก PE ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ
Bag and Gloves พร้อมตอบโจทย์โซลูชันบรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์หรือสินค้าอื่นๆ จากพลาสติก PE ทุกประเภท เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตฟิล์มพลาสติกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความปลอดภัย และนวัตกรรมในทุกกระบวนการผลิต
- มั่นใจในคุณภาพ
ทุกขั้นตอนการผลิต มีการควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยสูง
- ประสบการณ์กว่า 28 ปี
ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมากกว่า 28 ปี เราพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม
- เครือข่ายธุรกิจที่ครอบคลุมทั่วโลก
เราให้บริการลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมจัดส่งสินค้าคุณภาพสูงไปยังทั่วทุกมุมโลก
ผลิตภัณฑ์จาก Bags and Gloves
- ชุดกาวน์พลาสติก ปลอกแขน ถุงมือทางการแพทย์
- พลาสติกคลุมตัวและส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
- ถุงมือพลาสติกและผ้ากันเปื้อน
- ถุงพลาสติกและถุงขยะ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bagglove.com/th/ หรือหากต้องการสั่งซื้อ / สั่งผลิตสินค้า ติดต่อเราได้ที่ : คลิก